เข้าใจสัญญาเช่าให้ชัดก่อนตัดสินใจเช่าอสังหา

สัญญาเช่าไม่ใช่เอกสารธรรมดา แต่เป็นข้อตกลงสำคัญที่ผูกพันทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าแบบจริงจัง ถ้าอ่านไม่ครบหรือเข้าใจไม่ตรงกัน อาจกลายเป็นชนวนปัญหาในภายหลัง เช่น โดนปรับ เสียเงินมัดจำ หรือโดนบอกเลิกสัญญาโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ก่อนจะเซ็นอะไรลงไป ต้องรู้ว่าข้างในสัญญามีอะไรบ้างที่ควรระวัง และมีอะไรที่ต้องเขียนให้ชัดเจน

สัญญาเช่าคืออะไรในทางกฎหมาย

ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537 สัญญาเช่าคือการตกลงที่เจ้าของทรัพย์หรือที่เรียกว่าผู้ให้เช่า ยินยอมให้ผู้เช่าใช้งานทรัพย์สินของตัวเองเป็นการชั่วคราว แลกกับค่าตอบแทนที่ตกลงกันไว้ เรียกว่าค่าเช่า โดยผู้เช่าจะไม่มีสิทธิ์ในกรรมสิทธิ์ของทรัพย์นั้น และต้องคืนเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามที่ตกลงกันไว้

กรณีที่เช่าระยะไม่เกิน 3 ปี ทำเป็นหนังสือธรรมดาที่มีลายเซ็นทั้งสองฝ่ายก็เพียงพอ แต่ถ้าเกิน 3 ปี จะต้องจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ถึงจะฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย และหากมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติม เช่น ผู้เช่ายอมลงทุนตกแต่งหรือสร้างบางอย่างในที่เช่า ต้องทำข้อตกลงพิเศษแยกไว้อย่างละเอียดเพื่อป้องกันข้อขัดแย้งภายหลัง

รายละเอียดในสัญญาเช่าที่ต้องมีให้ครบ

การทำสัญญาที่ดีต้องลงรายละเอียดให้ชัดเจน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ เพื่อป้องกันการเข้าใจไม่ตรงกันในอนาคต โดยข้อมูลสำคัญที่ควรมี ได้แก่:

ความรับผิดของแต่ละฝ่ายต้องแยกให้ชัด

สิ่งที่ผู้ให้เช่าต้องดูแล

สิ่งที่ผู้เช่าต้องระวัง

ข้อควรรู้ที่หลายคนมองข้ามแต่สำคัญ

อยู่เช่าแบบสบายใจ ต้องเริ่มที่ระบบที่เชื่อถือได้

ต่อให้สัญญาจะเขียนดีแค่ไหน ถ้าเริ่มต้นจากการเจอเจ้าของห้องไม่ซื่อ หรือผู้เช่าที่ไม่รักษากติกา สุดท้ายปัญหาก็เกิดขึ้นอยู่ดี ทางออกคือการใช้แพลตฟอร์มที่ช่วยกลั่นกรองทุกอย่างให้พร้อม อย่าง teepakhealjai ที่รวมทั้งห้องเช่าและห้องขายในโซนศาลายาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้องหรือคนหาห้องก็ใช้งานง่าย ตรวจสอบข้อมูลได้ครบ และมีระบบสนับสนุนเรื่องเอกสารสัญญาที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ ปิดดีลง่าย ไม่ต้องกังวลทีหลัง